1,324 total views
สัปดาห์ที่ผ่านมาเราทำเวรกะดึก สิ่งที่พีคที่สุดไม่ใช่หมายงานที่ต้องไปทำในแต่ละวัน แต่เมื่อคืนนี้ คืนสุดท้ายของการทำงานกะดึกพี่ที่ทำงานคนนึงประสบอุบัติเหตุรถชน
เรารู้เรื่องจากบก. ตอนเกือบจะเที่ยงคืน ยังไม่ออกเวร เลยรีบไปดูอาการที่โรงพยาบาลกับพี่ช่างภาพและผู้ช่วยที่เข้าเวรอยู่ด้วยกัน
ระหว่างทางไปโรงพยาบาลเรานั่งคิดในรถตลอดทางว่าควรทำไงต่อ ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้กับคนใกล้ตัวมาก่อน ใช่! อย่างแรกต้องติดต่อพ่อแม่หรือญาติเขาให้ได้ เพราะถ้าเหตุเกิดกับเราเองพ่อแม่ก็คงเป็นห่วงเรามาก แต่…จะติดต่อทางไหนล่ะ?
สิ่งที่เป็นปัญหาสำคัญตามมาคือการติดต่อญาติต้องมีเบอร์โทรศัพท์หรือที่อยู่ แต่จะหาข้อมูลจากออฟฟิศดึกป่านนั้นก็ไม่มีใครอยู่แล้ว การติดต่อทางโทรศัพท์เป็นวิธีที่ง่ายและเร็วที่สุด
เบอร์ญาติที่จะหาได้ก็มี 2 ทางคือหาจากโทรศัพท์คนประสบเหตุ ไม่ก็ถามหาจากคนรู้จักของเขาไปเรื่อยๆ ที่แน่ๆ อย่างหลังเราไม่รู้เวลาที่แน่ชัด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในบรรดาคนที่เรารู้จักจะมีใครที่มีเบอร์พ่อแม่เขาบ้างมั้ย
งั้นเราควรเลือกอย่างแรกหาจากโทรศัพท์เขา แต่ว่ากันตามจริงส่วนใหญ่คนใช้สมาร์ทโฟนเดี๋ยวนี้มักจะล็อครหัสผ่าน เพื่อป้องกันขโมย ป้องกันข้อมูลด้านใน ทีนี้ถ้าเขาล็อครหัสผ่านก็จบกันสิเข้าไม่ได้จะโทรหาใครได้ จะเอานิ้วเขามาแสกนตอนนั้นก็ไม่ได้
แล้วเราก็นึกขึ้นได้ว่าในโทรศัพท์ไอโฟนมันมีฟังก์ชัน Emergency ที่เราเคยใส่ข้อมูล Medical ID เอาไว้ (ถ้านึกไม่ออกลองดูตามภาพข้างล่าง) มันจะมีส่วนที่ให้ใส่เบอร์ติดต่อฉุกเฉิน จะใส่ไปกี่เบอร์ก็ได้ พร้อมกับใส่ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพเบื้องต้นของเราได้ด้วย ตั้งแต่ข้อมูลพื้นฐาน กรุ๊ปเลือด น้ำหนัก ส่วนสูง ไปจนถึงการแพ้ยา ที่เป็นข้อมูลทางการแพทย์
ข้อมูลเหล่านี้จะถูกบันทึกไว้ในส่วนที่เป็น Emergency มันจะขึ้นมาอยู่มุมล่างซ้ายของจอพร้อมกับตอนที่ต้องใส่รหัสผ่านเข้าโทรศัพท์ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุและโทรศัพท์ไม่เสียหายจะทำให้คนที่เข้ามาช่วยเหลือสามารถใช้ช่องทางนี้ติดต่อญาติตามที่เราบันทึกไว้ได้ทันที โดยไม่ต้องปลดล็อครหัสเข้าไปหาเบอร์ด้านใน
ประเด็นสำคัญ แค่อยากจะบอกทุกคนที่ใช้ไอโฟน แล้วล็อครหัสผ่านไว้ ให้ไปใส่ข้อมูล Medical ID ในแอพ Health (สัญลักษณ์พื้นขาวรูปหัวใจสีชมพู) กันไว้ มันมีประโยชน์มากในช่วงเวลาฉุกเฉิน ช่วยให้ติดต่อญาติได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาตามหากันหลายทอดด้วยรักและเป็นห่วงทุกคนที่ได้อ่านสเตตัสนี้อย่างจริงใจ.
ปล.ไปหาข้อมูลมาในซัมซุงก็ตั้งค่าได้เหมือนกัน คิดว่าสมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่นก็น่าจะมี ลองหาทำกันดูนะ