1,578 total views
วันแรกของการเดินทาง…
จุดหมายของเราครั้งนี้คือเมืองฉางซา มณฑลหูหนาน ประเทศจีน เป็นครั้งแรกที่ได้ไปเที่ยวจีน และครั้งนี้มาพร้อมกับครอบครัวและญาติๆ จึงเป็นการมาเที่ยวกับกรุ๊ปทัวร์ในรอบหลายปีของเรา
เจอปัญหากันตั้งแต่อยู่สนามบินดอนเมือง เพราะเดินทางเข้าจีนต้องมีวีซ่า แต่วีซ่าของพ่อเราใช้พาสปอร์ตอันเก่าไปทำ เกิดความผิดพลาด เพราะชื่อไม่ตรงกับพาสปอร์ตใหม่ และไม่ได้พกอันเก่าติดตัวมาด้วย ตอนนั้นคิดอะไรไม่ออกเลย คิดแค่ว่า ถ้าพ่อไม่ได้ไป เราก็ไม่อยากไป คงเที่ยวไม่สนุกแล้ว ถ้าไปด้วยกันไม่ครบ …สรุปคือพ่อก็ไม่ได้ไปด้วยกัน ส่วนเราก็มากับแม่ เพราะยังไงครั้งนี้ก็จ่ายค่าทัวร์ไปแล้ว
เราจะไม่โทษใครในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่จะจำไว้เป็นบทเรียนว่า ถ้าจะมากับทัวร์ ต้องตรวจสอบเรื่องชื่อ การสะกดให้ตรงตามพาสปอร์ตเล่มที่ใหม่ที่สุด โดยเฉพาะประเทศที่ต้องขอวีซ่าแบบนี้ สะกดชื่อผิด ชีวิตเปลี่ยน ยิ่งเป็นจีน ถึงสนามบินไทยให้ผ่านเข้า ตม. ไปได้ ถึงจีนแล้วอาจมีปัญหาถูกส่งตัวกลับมาอยู่ดี
ผ่านปัญหาแล้วก็ข้ามน้ำ ข้ามทะเลมาถึงจีนกันจนได้ ส่วนพ่อ ยังดีที่น้องชายเรามารับกลับบ้านได้ ตัดภาพมาที่สนามบิน ถามว่าการผ่าน ตม. เข้มงวดมากมั้ย? สำหรับกรุ๊ปทัวร์ อาจจะมีแค่การเข้าตรวจที่ต้องเรียงคิวให้ตรงกับรายชื่อที่ทำวีซ่าไป และห้ามมีคนอื่นนอกกรุ๊ปมาคั่นระหว่างที่กรุ๊ปเราเข้าตรวจ นอกนั้นปกติ ผ่าน ตม. ได้ไม่ยุ่งยาก อาจเพราะช่วงที่เรามา สนามบินนี้ (Changsha Huanghua International Airport) ไม่ค่อยมีคนเดินทางเข้ามาเท่าไหร่
สภาพอากาศที่จีนตอนมาถึงสนามบินอยู่ที่ 29 องศา เป็นอากาศปกติที่ยังไม่เข้าขั้นหนาวเย็นเลย แต่ก็มีลมพัดมา ไม่ร้อนเท่าที่ไทยช่วงนี้แน่นอน
ออกเดินทางจากสนามบินเพื่อไปยังจุดหมายที่เมืองโบราณฟ่งหวง ระหว่างสองข้างทางจากสนามบินเข้าเขตเมือง ใช้เส้นทางถนนโทลเวย์เหมือนบ้านเรา มีต้นไม้ปลูกอยู่ตลอดสองฟากฝั่ง รวมถึงเกาะกลางถนน ให้บรรยากาศสบายตา และเป็นการเดินทางไปพร้อมกับธรรมชาติดี แต่พอเข้าเมืองมาก็คงเหมือนกับหลายประเทศที่เริ่มมีตึกรามบ้านช่องเต็มไปหมด เต็มในที่นี้คือเต็มจริงๆ บางจุดก็แน่นมากจนเราเห็นแล้วอึดอัดแทน
นั่งรถกันยาวๆ ได้แวะกินข้าวเย็นตอนหกโมงกว่า หลายคนอาจจะเคยรู้มาก่อนบ้างแล้วว่าที่จีนไม่ค่อยนิยมกินน้ำเปล่ากับน้ำแข็ง เครื่องดื่มมื้อเย็นวันนี้จึงเป็นน้ำอัดลม เบียร์ และชาร้อน อาหารส่วนใหญ่เพราะมากับทัวร์เลยทำให้ถูกปากคนไทยอยู่บ้างตรงที่มีรสจัด เน้นผัก และที่เป็นเอกลักษณ์เหมือนกันหมดคือความมันและเค็มของกับข้าว
รวมระยะเวลานั่งรถจากสนามบินมาถึงโรงแรมที่ฟ่งหวง 8 ชั่วโมงกว่า เหลือเวลาเดินไปชมเมืองโบราณกับการประดับไฟตอนดึกเล็กน้อย แสงสีเหมาะกับเป็นย่านขายของและที่ท่องเที่ยวช่วงกลางคืน ตอนมาถึงเวลาประมาณ 23.30 น. แล้ว แต่ยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินเที่ยวอยู่พอสมควร จุดไฮไลท์สำคัญอยู่ที่แสงไฟจากหมู่บ้านที่สะท้อนกับผืนน้ำ เป็นภาพที่จะเห็นได้ตอนฟ้ามืดแล้วเท่านั้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราต้องเดินมาชมเมืองถึงแม้จะมาถึงดึกมากแล้วก็ตาม
พรุ่งนี้ไปลุยกันต่อ ราตรีสวัสดิ์คืนที่หนึ่ง…